การเขียนบทวีดิทัศน์
(Script Writing)
โดย อัจฉริยะ จารุพันธ์
Film & Video Production, Columbia College Chicago
กว่าจะเป็นบทโทรทัศน์ เราเริ่มต้นกันอย่างไร
กว่าจะเป็นบทโทรทัศน์ นักเขียนบทมือใหม่หลายคนเริ่มต้นด้วยความยากลำบากและทุกข์ทรมานกว่าจะเริ่มเขียนประโยคแรกได้สำเร็จ หลายคนบอกว่าการเขียนบทต้องใช้พลังและแรงบันดาลใจสูงมาก หากไม่มีแล้วเขาจะเขียนอะไรไม่ได้เลย ขณะที่บางคนมีพล็อตเรื่องอยู่เต็มหัวไปหมดแต่ก็ไม่สามารถเขียนบทได้สำเร็จสักเรื่องหนึ่ง แล้วอะไรคือสูตรลับในการเขียนบท และเราจะเริ่มเขียนบทกันได้อย่างไร
เสียงลึกลับที่ดังก้องอยู่ภายใน
ในหนังสือ The Screen-writer Workbook (Dell Publishing, 1984), Syd Field เขียนเล่าไว้ว่า นักเขียนบทมืออาชีพส่วนใหญ่จะได้ยินเสียงลึกลับดังก้องอยู่ภายในใจบอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น แต่การเขียนบทที่แท้จริงไม่ใช่การนั่งรอเสียงลึกลับข้ามเดือนข้ามปี หากเป็นศิลปะที่ต้องการการฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญ
ศิลปะการเล่าเรื่อง [i]
ไม่ว่าจะเป็นนิทาน นิยาย ละคร หรือภาพยนตร์ ล้วนแล้วแต่มีรากฐานแบบเดียวกัน นั่นคือ การเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นของมนุษย์หรือสัตว์ หรือแม้แต่อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นช่วงเวลาหนึ่งเวลาใด ณ สถานที่ใดที่หนึ่งเสมอ ฉะนั้น องค์ประกอบที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือ ตัวละคร สถานที่ และเวลา
สิ่งที่สำคัญในการเขียนบทก็คือ การเริ่มค้นหาวัตถุดิบหรือแรงบันดาลใจให้ได้ ว่าเราอยากจะพูด จะนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับอะไร ตัวเราเองมีแนวความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ อย่างไร ซึ่งแรงบันดาลใจในการเขียนบทที่เราสามารถนำมาใช้ได้ก็คือ ตัวละคร แนวความคิด และเหตุการณ์ และควรจะมองหาวัตถุดิบในการสร้างเรื่องให้แคบอยู่ในสิ่งที่เรารู้สึก รู้จริง
เมื่อเราได้เรื่องที่จะเขียนแล้วเราก็ต้องนำเรื่องราวที่ได้มาเขียนเป็นพล็อต (Plot) ว่าใคร ทำอะไร กับใคร อย่างไร ที่ไหน เมื่อไร เพราะอะไร และได้ผลลัพธ์อย่างไร ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ข้อมูล หรือวัตถุดิบที่เรามีอยู่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนว่ามีแนวคิดมุมมองต่อชีวิตคนอย่างไร
และเมื่อเราได้เรื่อง ได้โครงเรื่องมาเรียบร้อยแล้ว เราก็นำมาเป็นรายละเอียดของฉาก ว่ามีกี่ฉากในแต่ละฉากมีรายละเอียดอะไรบ้าง เช่นมีใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร ไปเรื่อย ๆ จนจบเรื่อง ซึ่งความจริงแล้วขั้นตอนการเขียนบทไม่ได้มีอะไรยุ่งยากมากมาย เพราะมีการกำหนดเป็นแบบแผนไว้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยาก มาก ๆ ก็คือกระบวนการคิด ว่าคิดอย่างไรให้ลึกซึ้ง คิดอย่างไรให้สมเหตุสมผล ซึ่งวิธีคิดเหล่านี้ไม่มีใครสอนกันได้ทุกคน ต้องค้นหาวิธีลองผิดลองถูก จนกระทั่ง ค้นพบวิธีคิดของตัวเอง
องค์ประกอบของบท
บทโทรทัศน์หรือบทภาพยนตร์ ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ ภาพและเสียง ดังนั้นการเขียนบทคือการบรรยายภาพและเสียงซึ่งต่างจากการเขียนบทความหรือการเขียนนิยายทั่วไป โดยมีภาพที่ต้องบรรยาย เช่น
1. ฉาก
2. สถานที่
3. พิธีกร
4. นักแสดง
5. เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
6. อุปกรณ์ประกอบฉาก
7. ข้อความ
8. ภาพกราฟฟิก (Graphic)
และ ตัวอย่างของการบรรยายเสียง เช่น
- เสียงพากษ์ หรือ เสียงผู้บรรยาย
- บทสนทนา
- เสียงซาวด์เอ๊ฟเฟ็ค (SFX)
- ดนตรีประกอบ
- เสียงบรรยากาศ (Background)
รูปแบบของรายการโทรทัศน์
สำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดระเบียบว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ แบ่งประเภทของรายการโทรทัศน์ออกเป็นดังนี้
1. รายการประเภทข่าว
2. รายการประเภทความรู้
3. รายการประเภทบันเทิง
4. รายการประเภทโฆษณาการบริการธุรกิจ
ซึ่งเป็นการแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการผลิตรายการนั้นๆ นั่นก็คือ
• เพื่อเสนอข่าวสาร
• เพื่อถ่ายทอดความรู้
• เพื่อเสนอความบันเทิง
• เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์
รูปแบบของบทโทรทัศน์
การเขียนบทโทรทัศน์สามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ
1. รูปแบบบทภาพยนตร์ (Classic Screenplay Format)
2. รูปแบบบทโทรทัศน์ (TV Script Format)
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเด็นเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ เช่น หากต้องการเสนอรายการในรูปแบบละครอาจต้องเขียนในรูปแบบบทภาพยนตร์จะทำให้การเล่าเรื่องมีความชัดเจนมากกว่า
ตัวอย่างรูปแบบบทภาพยนตร์
ละครสารคดี
“นี่หรือชีวิต”
FADE IN:
EXT. บ้านอาอั่วม่า มีนบุรี (2494)-บ่าย (ต่อเนื่อง)
ที่หน้าบ้าน “ก๋ง”หรือ “ตั้งจุ้ยเซ้ง” อาเตี่ยในวัยหนุ่มราว 28 ปี ยึดอาชีพพ่อค้าผ้าหาบเร่เดินแบกหาบตัวโหย่งเข้าบ้านมา โดยมี “อาม่า”และหมวย”ไซเง็ก” อายุ 9-10 ขวบนั่งมองตรงมาด้วยความประหลาดใจ
อาม่า
(แปลกใจ)
อ้าว ทำไมวันนี้ลื้อกลับแต่วันล่ะ
ตัวอย่างรูปแบบบทโทรทัศน์ (TV Script Format)
บทโทรทัศน์มักเขียนแบ่งหน้ากระดาษเป็น 2 ฝั่ง โดยเขียนเล่าบรรยายภาพไว้ด้านซ้าย และเขียนบรรยายเสียงไว้ด้านขวา ดังตัวอย่างต่อไปนี้
| ภาพ | เสียง |
1 | Fade In: Title: ภาพนักเรียนสานตะกร้า ปลูกผัก ทำอาหารขาย Super: ตะกร้าพารวย ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง | เพลง”รายได้เสริม” เพลงประจำโครงงาน แต่งโดยพระอาจารย์ ดำรงค์ เตชะปัญโญ เนื้อหาเกี่ยวกับตะกร้าพารวย |
2 | ภาพเด็กนักเรียน ช่วยกันจัดเรียงตะกร้า บนพื้นดินเสื่อมข้างโรงเรียน จากนั้นใช้เทคนิคการตัดต่อ เห็นพืชผักเจริญเติบโตงอกงามอย่างรวดเร็ว | บรรยาย – โรงเรียนบ้านหนองขนาก ต.จอมบึง อ.จองบึง จ.ราชบุรี และบริเวณใกล้เคียง มีพื้นที่เป็นดินทราย และเป็นดินดานเสื่อมคุณภาพ ปลูกผักไม่ค่อยเจริญงอกงาม แต่ด้วยความพยายามของคณะครูและนักเรียนนำโดย คุณครู สมหวังและคุณครูดาวเรือง สุขพ่วง ครูที่ปรึกษาโครงอาชีพ ระดับประถมศึกษา พบว่าสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการปลูกผักในภาชนะแทนการปลูกบนดินตามปกติ |
3 | ภาพสัมภาษณ์ อ.สมหวัง และ อ.ดาวเรือง Super: อ.สมหวัง สุขพ่วง ครูที่ปรึกษาโครงงานอาชีพ โรงเรียนบ้านหนองขนาก จ.ราชบุรี | (อ.สมหวัง เล่าถึงที่มาของการปลูกผักในตะกร้าสาน พร้อมทั้งอธิบายถึงสาเหตุที่ไม่เลือกปลูกผักในกระถางทั่วไป) |
โครงสร้างของรายการ
ก่อนจะเริ่มลงมือเขียนบท เราต้องสรุปโครงสร้างของรายการเสียก่อน ด้วยการแบ่งรายการออกเป็นช่วงๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมของรายการทั้งหมดเสียก่อน
โครงสร้างรายการแบบง่ายๆ อาจแบ่งเป็นช่วงดังนี้
1. ไตเติ้ล
2. เปิดรายการ
3. เนื้อรายการ
4. บทสรุป ปิดรายการ
5. เครดิตท้าย
จากนั้นจึงกำหนดความยาวของแต่ละช่วงว่าจะใช้เวลาดำเนินเรื่องนานเท่าไหร่ เช่น รายการความยาว 60 นาที อาจให้เวลา ช่วงไตเติ้ลและเปิดประเด็นนำเข้ารายการ 10 นาที เนื้อรายการ 40 นาที และสรุปปิดท้ายรายการ 10 นาที
การแบ่งรายการออกเป็นส่วนๆนี้เป็นการสร้างกรอบเวลาช่วยควบคุมการเขียนบทไม่ให้ยืดเยื้อหรือใช้เวลาดำเนินเรื่องบางเรื่องนานเกินไป
ขั้นตอนการเขียนบท
กระบวนการเขียนบทมีขั้นตอน ดังนี้
1. หาข้อมูล (Research)
2. กำหนดเรื่อง (Subject)
3. สรุปประเด็นเนื้อหา (Concept)
4. วางโครงเรื่อง (Treatment/ Outline)
5. คิดเป็นภาพ (Visualization)
6. เขียนบทร่าง (1st Draft)
7. แก้ไข ปรับแต่ง
การหาข้อมูล (The Research)
แหล่งข้อมูลไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในรูปแบบเอกสาร ภาพถ่าย เท่านั้น การหาข้อมูลจากบุคคลเป็นการสืบค้นข้อมูลที่ใช้มากที่สุดในการผลิตรายการโทรทัศน์เพราะหมายถึงแหล่งข้อมูลที่มีทั้งภาพและเสียงในเวลาเดียวกัน สิ่งสำคัญคือยิ่งหาข้อมูลได้มากก็ยิ่งทำให้เราเข้าใจประเด็นเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอมากยิ่งขึ้น
ประเด็นเนื้อหาที่การนำเสนอ (The Concept)
คอนเซ็ปท์ หรือ ประเด็นเนื้อหา คือ ใจความสำคัญที่เราต้องการบอกผู้ชม ซึ่งอาจมีเนื้อหาได้มากมายหลายเรื่อง แต่หากเรามีเวลาสั้นๆการเน้นประเด็นหลักประเด็นเดียวจะทำให้ผู้ชมเข้าใจได้ง่ายกว่า
Visualizing
เขียนบทต้อง ”คิดเป็นภาพ” เพราะบทหรือสคริปท์ เล่าเรื่องด้วย “ภาพและเสียง” เราเขียนบทเพื่อไปถ่ายภาพ ไม่ได้เขียนเพื่อทำเป็นหนังสือซึงใช้ศาสตร์ของการเล่าเรื่องที่แตกต่างกัน ขณะเขียนบทลองจินตนาการว่าคุณเห็นหรือได้ยินอะไรบ้างราวกับว่าคุณกำลังนั่งดูทีวีหรือดูภาพยนตร์ที่ฉายเรื่องราวที่เรากำลังเขียนอยู่ ดังนั้น “ฝึกคิดเป็นภาพ” และ ใช้ภาษาภาพสื่อสารกับผู้ชมแทนการประดิษฐ์ถ้อยคำมาเล่าเรื่อง
โครงร่างบท หรือ โครงเรื่อง (The Treatment/Outline)
ในการเขียนบทภาพยนตร์เราจะเรียก การทำโครงร่างบท ว่าการเขียน เอ๊าท์ไลน์ (Outline) หรือเรียกว่า ทรีทเม้นต์ (Treatment) เมื่อเขียนเป็นบทสารคดี
การเขียนโครงร่างบทเป็นขั้นตอนสำคัญในการเขียนบท แต่”โครงร่างบท” ยังไม่ใช่บท เป็นเพียงการร่างลำดับเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อแยกประเด็นเนื้อหาที่ต้องการเสนอเป็นช่วงๆ ทำให้เราเห็นภาพรวมของแต่ละช่วงแต่ละตอนชัดเจนขึ้น แล้วค่อยลงรายละเอียดในการเขียนบทจริงอีกที อย่างไรก็ตาม ในการผลิตสารคดีบางครั้ง โครงร่างบทจะถือว่าเป็นบทสำหรับถ่ายทำได้เลยเพราะไม่สามารถเขียนระบุภาพเหตุการณ์จริงได้
ตัวอย่างการเขียนโครงร่างบท
สารคดี “กว่าจะเป็นนายอำเภอ”
1. ไตเติ้ล
2. บรรยากาศทั่วไปของโรงเรียนนายอำเภอ
3. สัมภาษณ์ ผอ. โรงเรียนนายอำเภอ
4. กว่าจะเป็นนายอำเภอ
1. สัมภาษณ์ นร. (ปลัดอำเภอ)
2. ชีวิตในโรงเรียน
3. เรียนอะไรกัน ทำไมต้องเรียน
4. ทำไมต้องซ้อมวิ่ง เหมือนฝึกทหาร
5. สรุปปิดท้าย
6. เครดิตท้าย
ศัพท์เทคนิคพื้นฐานสำหรับการเขียนบท
การเขียนบทไม่จำเป็นต้องใช้ศัพท์เทคนิคด้านภาพเสมอไปเพราะเป็นหน้าที่ของผู้กำกับที่กำหนดการวางมุมกล้องขณะถ่ายทำ ซึ่งตัวอย่างศัพท์เทคนิคพื้นฐานสำหรับการถ่ายภาพ มีดังนี้
1. มุมกล้อง และ การเคลื่อนกล้อง
– Pan แพน หมายถึง หันกล้องไปทาง ซ้าย หรือ ขวา
– Tilt ทิ้ล หมายถึง ก้มหรือ เงยกล้องขึ้น-ลง
– Zoom ซูม หมายถึง การดึงภาพเข้ามาใกล้ หรือ ห่างออกไป โดยตัวกล้องอยู่นิ่ง
– Dolly ดอลลี่ หมายถึง การเคลื่อนกล้องบนรางเลื่อน เข้าหา หรือ ออกห่างจากวัตถุ
2. ขนาดภาพ
– Long shot (LS) ลองช๊อท ภาพระยะไกล
– Medium Shot (MS) ภาพระยะปานกลาง
– Close Up (CU) ซียู ภาพระยะใกล้
– Extreme Close Up (ECU) ภาพระยะใกล้มาก